“Nissan March Eco Car ราคาในไทยเท่าไหร่” วันนี้ผู้เขียนมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่ง หรือรถยนต์มือสองก็ตาม ขอใช้คำว่าเกือบพลาดโอกาศดี ๆ ไปแล้ว เพื่อเป็นแนวทางให้คนที่สนใจจะซื้อรถได้นำไปใช้หรือเป็นแนวทางในการซื้อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ หรือรุ่นไหนก็ตาม
ด้วยความที่ผู้เขียนไม่เคยซื้อรถยนต์มือสองเลยในชีวิตนี้ แต่ว่าความจำเป็นบวกกับมีภาระที่ต้องใช้จ่ายหลายได้ด้าน ทำให้ต้องมองไปที่รถยนต์มือสอง ที่คิดว่าราคาน่าจะถูกกว่ารถยนต์มือหนึ่ง “แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เป็นอย่างนั้นเสียทุกอย่าง” เพราะอะไร เดี๋ยวติดตามอ่านต่อไปนะครับ
ก่อนอื่นขอเกิ่นให้ทราบว่าผู้เขียนไม่ได้ซื้อรถยนต์มากว่า 10 ปีแล้ว เพราะรถยนต์ที่ใช้อยู่ยังมีสภาพดีทุกอย่าง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่สมาชิกในครอบครัวมีความจำเป็นต้องใช้อีกคัน เนื่องจากเส้นทางการทำงานไม่ได้ไปด้วยกัน ทำให้ต้องใช้รถยนต์อีกคัน ซึ่งเดิมทีเขาใช้รถมอเตอร์ไซต์ขับ แต่เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ เลยเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องมองหารถยนต์ ซึ่งผู้เขียนคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่ามอเตอร์ไชต์ขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง
เริ่มแรกเลยก็ใช้ Google ค้นหายี่ห้อรถและรุ่นที่เป็นกลุ่ม Eco Car ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ หนึ่งประหยัดน้ำมัน และสองราคาไม่สูงนักพอที่จะผ่อนส่งงวดได้ จนมาพบที่เว็บนี้
จะเห็นว่า Nissan March มี 3 รุ่นหลัก ๆ ก็คือ Nissan March EL CVT ราคาสูงสุดประมาณ 526,500 บาท รุ่นกลาง Nissan March E ราคาอยู่ที่ประมาณ 479,000 บาท และรุ่นเล็ก(รุ่นมาตรฐาน) Nissan March S ราคาอยู่ที่ประมาณ 420,000 บาท เนื่องจากเราไม่ค่อยมีความรู้มากมายเกี่ยวกับรุ่น และราคาของ Nissan March สักเท่าไหร่ เมื่อคำนวณตามโปรแกรมที่ทางเว็บให้ไว้ ซึ่งเราตั้งใจดาวน์ประมาณ 1 แสนบาท และเมื่อคำนวณค่างวด 84 งวดจะตกเกือบ ๆ งวดละ 6 พันกว่าบาท ทำเอาตกใจนิดหน่อย เพราะดูแล้วไม่น่าจะแพงขนาดนี้
ทำให้ต้องมองไปที่เต้นรถมือสอง ก็ปรากฏว่าไปพบรถรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถมือสองที่อายุยังไม่นานประมาณ 2 ปี (ปี 2017) ราคาอยู่ที่ 3.1 แสนกว่า ๆ จากการสอบถามหากเราดาวน์ที่ 1 แสน ค่างวดต่อเดือนจะตกที่ 4,300 บาทนิด ๆ คิดว่าน่าจะโอเค แต่เดี๋ยวก่อน มีเรื่องพีค ๆ ให้เจอคือทางเต้นให้มัดจำเงินไว้จำนวนและส่งหลักฐานเพื่อขออนุมัติเครดิต ปรากฏว่าในระหว่างที่รอเครดิตอนุมัติ จะด้วยที่เราค้นหาข้อมูลรถหรือเปล่าไม่ทราบ ปรากฏว่าใน Facebook มีแต่โฆษณาโปรโมชั่น “ราคารถยนต์ใหม่” รุ่นนั้นรุ่นนี้ขึ้นมาปรากฏเต็มไปหมด ด้วยความอยากรู้ก็มีการ Comment สอบถามบ้าง Inbox หาทางเซลล์บ้าง พบว่าข้อมูลที่เราได้รับ เหมือนฟ้ากับเหว ฟ้ากับเหวตรงไหน ก็คือ
1. เราเข้าใจผิดว่ารถใหม่ราคาแพงเหมือนกับในเว็บที่เราใช้ค้น(ซึ่งไม่ใช่มันมีข้อ 2 )มาให้
2. โปรโมชั่นที่ได้รับจากโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ทางค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ให้นั้น หากรวมกับค่าดาวน์ที่เราตั้งใจไว้ แล้วมาคำนวณค่างวดต่อเดือน ถูกกว่ารถยนต์มือสองเลยก็ว่าได้ หรือมากสุดก็ไม่เกินค่าต่องวดของรถยนต์มือสองเลย แต่สิ่งที่เราจะได้เพิ่มเติม(ซึ่งรถยนต์มือสองไม่แถม) เช่น
– ประกันภัยชั้น 1 จากบริษัทรถยนต์
– บริการตรวจสภาพและดูแลรถหลังการขาย
– ทองคำ(บางเจ้า)
– เงินเติมน้ำมันฟรี(บางเจ้า)
– ฯล (ไปคุยกับเซลล์เอา)
แนะนำสำหรับคนที่อยากได้รถใหม่แล้วได้ในข้อ 1 และข้อ 2 หมายความว่าอย่างไร ผมขอยกตัวอย่าง Nissan March รุ่น E (ใหม่ ปี 2019) ราคาจะประมาณ 4.9 แสนนิด ๆ แต่… ทาง Nissan มีโปรโมชั่น ออกรถไม่มีดาวน์ ตรงนี้หมายความว่าอย่างไร คือทางศูนย์ Nissan แต่ละที่จะมีโปรโมชั่นฟรีเงินดาวน์ ซึ่งจะไม่บอกตรง ๆ ว่าตีเป็นเงินดาวน์เท่าไหร่(แต่บางศูนย์ก็บอกมาเลย) ซึ่งหากไม่ได้แจ้งไว้ลูกค้าต้องคุยกับเซลล์เอาเองว่าเท่าไหร่(ตรงนี้แหละสำคัญอยู่ที่วาทะของท่านแล้วละว่าจะต่อรองได้มากน้อยแค่ไหน บางที่อาจจะสูงถึง 15-20% เลยทีเดียว) แล้วเงินตรงนี้จะไปรวมกับเงินดาวน์ที่เราตั้งใจไว้ว่าจะดาวน์เท่าไหร่เพื่อจะได้ส่งงวดน้อย ๆ ผู้เขียนเองตั้งใจว่าจะดาวน์ที่ 1 แสนบาท และเมื่อรวมกับโปรโมชั่นฟรีเงินดาวน์ก็จะเท่ากับว่าเราดาวน์สูงถึง 35-40% เมื่อคำนวณค่างวดแล้วก็จะตกอยู่ที่ 4 พันกว่าบาทนิด ๆ (84 งวด) ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ เพราะ
1. เราได้รถยนต์ใหม่(อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ระดับหนึ่ง)
2. โปรโมชั่นส่วนอื่น ๆ อีกเพียบ รวมถึงบริการหลังการขายฟรีในหลายรายการ
3. ส่งงวดถูกกว่ารถยนต์มือสอง(ด้วยซ้ำ)
สุดท้ายผู้เขียนขอใช้คำว่า “เกือบพลาด” เพราะการไม่รู้ในครั้งนี้ ซึ่งก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไร ยิ่งของมีราคายิ่งต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลให้มาก อย่ารีบด่วนตัดสินใจ เพราะพลาดมาเราจะอยู่กับมันไปอีกนาน ซ้ำใจกับการตัดสินใจของตัวเอง ท่านใดต้องการคำแนะนำ สามารถ Comment ไว้ด้านล่าง แล้วจะบอกเคล็ดลับดี ๆ ในการต่อรองโปรโมชั่น เพื่อให้ได้ส่วนลดสูงสุดครับ